จริงๆงานนี้จะว่าไปก็แค่งานแกะโฟม แล้วเคลือบอีพอกซี่ธรรมดา แบบงานก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไร ระยะเวลางานก็ไม่กดดันมีเวลาตั้ง 3 สัปดาห์ ไม่น่าจะมีอะไรตื่นเต้นมากมาย
แต่ถึงกระนั้น เนื้องานจริงๆกับเป็นตอนส่งงาน เพราะลูกค้าอยากได้งานไปตั้งหน้าร้านให้ทันปีใหม่นั่นเอง ตอนแรกกะว่าพอเสร็จงานก็จะจ้างบริษัทขนส่งไปส่งงานให้(ซึ่งลูกค้าอยู่ถึง ลำพูน) เพราะคิดค่าส่งลูกค้ามาแค่ค่าตีลังไม้ไม่กี่พัน ลงทุนซื้อไม้ก็เกือบสองพันแล้วยังไม่คิดค่าแรงด้วยซ้ำ พอถึงเวลาส่งงานจริงๆ อาจเป็นเพราะใกล้ปีใหม่เกินไป ต่างคนต่างต้องการส่งของให้ทันปีใหม่ บริษัทขนส่งก็เลยมีงานยุ่ง นัดมารับงานก็ไม่มาซักที อีกวันสองวันเค๊าก็จะปิดปีใหม่แล้ว อุตส่าห์ เสร็จงานก่อนกำหนด ตีลังไม้ แพคลงลังเรียบร้อย
รอจนวันที่ 30 ธันวา อย่ากระนั้นเลย ไม่ให้เสียลูกค้า ขับรถไปเองเลยดีกว่า แต่ก็ต้องมาลุ้นอีกว่าจะเอาหุ่นเข้ารถเราได้รึเปล่าเพราะรถของเราเป็นรถ 4 wheel เล็กๆ ไม่มีทางเลือกต้องเสี่ยงแล้ว จัดแจงแพคข้าวของ ใส่รถทั้งแฟนและเด็กๆก็อยากไปเที่ยวเหนือด้วย ไปก็ไป ปรากฏว่า ใส่หมด รวมทั้งที่หลับที่นอนที่เอาไปเผื่อ หากหาที่นอนไม่ได้เพราะแถวนั้นวันปีใหม่ ถ้าไม่จองล่วงหน้า คงต้องนอนวัด หรือไม่ก็ต้องดวงดีสุดๆ
ระหว่างทางต้องเปิด google map ไปตลอดทางเพราะไม่ได้ขับรถไปแถวภาคเหนือบ่อยๆ แถมจังหวัดลำพูนเนี่ยไม่คุ้นเลย เพราะอยากไปถึงให้เร็วๆก็เลยเลือกเส้นทางที่สั้นที่สุดในแผนที่ ปรากฏว่าในแผนที่บอกว่าเป็นทางสั้นสุด แต่ไม่ได้บอกว่าทางเป็นยังไง กว่าจะรู้ตัวว่าโดน “อากู๋” เล่นเอาซ๊ะแล้ว ก็พบว่ากำลังขับรถเลี้ยวไปเลี้ยวมาทั้งโค้งหักศอก เลาะเขา ทางชัน ดีไม่ได้เป็นโรค เมาโค้งไม่งั้น ได้อ้วกระหว่างทางแน่ แต่เด็กสนุกกันใหญ่ ได้อารมณ์เหมือนนั่งรถไฟเหาะตีลังกา เด็กก็ดีเงี้ย ไม่ค่อยทุกข์ร้อน
ตอนออกจากกรุงเทพ google map มันว่าจะถึง ประมาณ บ่าย 3 กว่าจะถึงเล่นเอา 5 โมงเย็น (เพราะไอ้ทางเลาะเขาเนี่ยแหล่ะ รอดมาได้ก็บุญแล้ว)
มารู้อีกทีคือว่าทางเข้า อ.ลี้ จ.ลำพูนเนี่ยต้องอ้อมเข้าอีกทางซึ่งเป็นทางดีๆปรกติ แต่อ้อมไกลหน่อยนึง
ตอนเอาของออกจากรถเพื่อส่งงานให้ลูกค้า รู้สึกเหมือนหนัง บ้านผีปอบ ยังไงไม่รู้ รถคันนิดเดียว ทั้งหุ่นตัวเบ้อเริ่ม ผู้ใหญ่ 2 คน เด็ก 2 คน ที่นอน ผ้าห่ม กระเป๋า เดินทาง อัดเข้าไปได้ยังไง ยังงงๆ
พอส่งงานเสร็จ ถ่ายรูป แป๊ปนึงว่ามาถึง ก็รีบขับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่เลย กลัวจะมึดระหว่างทาง ไม่ค่อยคุ้นอยู่ด้วย มาถึงเชียงใหม่ ประมาณ 2 ทุ่มได้ ต้องมานั่งไล่โทรศัพท์หาที่พักอีก โชคดีได้ที่นึง ที่ถนนนิมมานเหมินต์ เป็นเกสต์เฮ้าส์ ทรงโบราณ บรรยากาศสุดยอด แต่ได้แค่คืนเดียว เพราะจะมีเค้าท์ดาวน์หน้าห้าง meya คนเลยจองที่พักกันแน่นไปหมด
ช่างหัวมันเรื่องที่พักก่อน ตอนนี้เที่ยวให้คุ้มกับที่มาไกล ตอนเช้านั่งสองแถวขึ้นดอยสุเทพไหว้พระธาตุหน่อย แล้วลงมาเข้าสวนสัตว์เชียงใหม่ เสียค่าเข้าดูแพนด้าเป็นร้อยมาดูแพนด้าหลับซ๊ะงั้นแถมหันหลังให้ซ๊ะอีก มีป้ายบอกห้ามส่งเสียงด้วย(อะไรจะประคบประหงมกันขนาดน้าน)
เที่ยวสวนสัตว์กันจนเย็น ทีนี้ก็ถึงทีหาที่นอนหล่ะเพราะอยากอยู่อีกซํกคืน นั่งไล่โทรศํพท์ตามที่พัก ก็ไม่มีที่ว่างเลย นึกขึ้นได้มีลูกค้าคนนึงเคยให้นามบัตรไว้ เห็นว่าทำร้านไอติมมีอาหารมีที่พักด้วย เลยโทรไปหา ปรากฏว่ามีว่างอยู่หลังนึงพอดี อยู่ไกลออกไปนอกเมืองหน่อย ดีเลย ไม่อยากอยู่แออัดเหมือนกัน
บรรยากาศที่นี่ ออกแนวร้านอาหาร ที่มีสวนสตอเบอรี่ให้เดินชมเล่นๆ มีบ้านพักแค่ 2 หลัง อาหารก็อร่อย ไอติม กะทิสูตรโบราณใครได้มาทานต้องนอนไม่หลับมันอีกนาน หมายถึงอร่อยมากหน่ะ ใครมาเที่ยวเชียงใหม่ แถวๆแม่ริม เชิญแวะชิมไอติมโบราณที่ ศาลาไอติม ได้ แถวๆแม่ริมนี่ที่เที่ยวเค๊าก็เย๊อะ ทั้ง ม่อนแจ่ม น้ำตกแม่สา(ห่างจากที่พักแค่โลเดียว ไม่มีคนเที่ยว เงียบดี)?สวนพฤษศาสตร์ ยังไม่นับพวกรีสอร์ต ที่มี?ของเล่นผจญภัยมากมายอีกด้วย?